ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
  
    หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก   
 
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสื้อยันต์วิรุณจำบัง หลวงพ่อคง สำนักวัดบางกระพ้อม  (อ่าน 1188 ครั้ง)
toi
Global Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 5117


« เมื่อ: สิงหาคม 11, 2013, 10:16:15 am »

   
 

              เสื้อยันต์วิรุณจำบัง ของหลวงพ่อคง  วัดบางกระพ้อม

     เสื้อยันต์นี้เดิมเรียกว่า เสื้อแคล้วคลาด แต่นักนิยมเครื่องรางของขลังเรียกว่า"เสื้อยันต์วิรุณจำบัง"เดิมหลวงพ่อคงท่านได้สร้างเสื้อยันต์ชนิดพิเศษให้กับศิษย์ของท่านชื่อว่า แกละเป็นตัวแรก โดยให้นำติดตัวรับใช้ประเทศชาติ ในการเป็นทหารแต่ภายหลังศิษย์ของท่าน ได้กลับกลายเป็นเสือปล้นนามกระฉ่อน แห่งแม่กลอง กล่าวกันว่าเมื่อเข้าปล้นครั้งใดก็ใส่เสื้อยันต์ของหลวงพ่อคงทุกครั้ง ยิงต่อสู้กับเจ้าทรัพย์ลูกปืนแตกราวกับห่าฝน แต่ไม่อาจต้องตัวเขาได้ มีบางครั้งตำรวจรู้แกวยกกำลังมาล้อมตลบหลัง เสือแกละก็กลัดกระดุมเสื้อยันต์เม็ดบนสุด เดินสวนกับตำรวจชนิดจังหน้าผ่าวงล้อมตำรวจ ซึ่งไม่มีสักนายที่จะมองเห็น ต่อมาหลวงพ่อคงรู้สึกเสียใจที่ได้สร้างเสื้อยันต์ให้กับเสือแกละ โดยมิได้ตั้งข้อห้ามหรือให้สัตย์สาบาน จึงเรียกเสือแกละมาพบ และสุดท้ายเสือแกละก็สาบานเลิกปล้นคืนเสื้อยันต์ให้กับหลวงพ่อและกลับตัวเป็นคนดีหายจากแม่กลองไปนับแต่บัดนั้น

          เมื่อข่าวอภินิหารเสื้อยันต์หลวงพ่อกระจายกันออกไปบรรดาศิษย์ของท่านจึงเรียกเสื้อยันต์นี้ว่า วิรุณจำบัง วิรุณจำบัง เป็นชื่อของยักษ์ที่เป็นญาติของทศกรรณฐ์ มารบกับพระรามและไม่อาจทานอำนาจของพระรามได้ จึงแปลงตัวเป็นไรน้ำ  ไปเกาะอยู่ในฟองคลื่นในมหาสมุทร หนุมานต้องเนรมิตกายแล้วเอาหางกวนมหาสมุทรจับตัววิรุณจำบังสำเร็จโทษในที่สุด ชื่อของวิรุณจำบังจึงเหมาะสมกับเสื้อยันต์ของหลวงพ่อคงเป็นอย่างยิ่ง

                          กรรมวิธีการสร้างเสื้อยันต์

            ครั้นเมื่อหลวงพ่อคงเสร็จเรื่องราวเกี่ยวกับศิษย์ผู้กลายเป็นเสือแล้ว ท่านก็ปรารภกับกรรมการวัดตลอดจนกำนันผู้ใหญ่บ้านว่า จะเลิกสร้างเสื้อยันต์เพราะหากตกอยู่กับมือคนร้ายใจอกุศลแล้วละก็ จะลำบากในการปราบปรามเป็นอันมาก แต่บรรดาคนเหล่านั้นตลอดจนศิษย์รุ่นใหญ่ได้กราบขอร้องว่า หากไม่สร้างแล้วศิษย์รุ่นหลังจะเสียใจ ขอให้ได้เลือกผู้ที่จะประสิทธิ์ให้ก็แล้วกัน หลวงพ่อจึงมีข้อแม้ว่า ใครจะให้ท่านสร้างเสื้อยันต์นี้ให้จะต้องสาบานตนและเข้าพิธีทำสัตย์ปฏิญาณตนกับท่าน ว่าจะไม่เอาไปใช้ในทางที่ไม่ดีหากผิดคำสาบานให้มีอันเป็นไปต่างๆนานา ถึงแก่ความตายด้วยความน่าสะพรึงกลัวเสื้อยันต์วิรุณจำบังจึงได้รับการสร้างสืบต่อมา ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

          1.ผู้ที่ต้องการเสื้อจะต้องเข้าไปกราบขอกับท่านด้วยตัวเองพร้อมทำพิธีสาบานให้เรียบร้อย ท่านอนุญาตให้แล้วจึงให้ไปทำเสื้อมาให้ท่าน

          2.ให้ไปว่าจ้างช่างตัดเสื้อทำเสื้อกั๊กไม่มีแขน เม็ดกระดุม 5 เม็ด ตามขนาดตัวผู้เป็นเจ้าของ ด้านนอกทำด้วยผ้าสีดำ ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นผ้าสักหลาด ส่วนด้านในให้บุซับในด้วยผ้าต่วนสีขาวหรือผ้าขาวให้เรียบร้อย

         3.เมื่อได้เสื้อกั๊กมาแล้วก็ให้นำมามอบให้ท่านเพื่อทำพิธีลงเลขยันต์ ท่านจะหาฤกษ์หายามดีตามกรรมวิธีของท่าน กล่าวกันว่าครั้งหนึ่งๆจะมีเสื้อเป็นจำนวนนับสิบๆตัว รอให้หลวงพ่อลง ท่านจะลงด้วยหมึกจีนสีดำ ด้านในเสื้อเป็นอักขระว่า

นะโมพุทธายะ  พระเจ้าห้าพระองค์

จะภะกะสะ  หัวใจกรณี

อะสังวิสุโลปุสะภุพะ  นวหรคุณหรือพระพุทธคุณนามเก้า

กะระมะทะ  หัวใจสี่เกลอ

อิติอุนินะมามิหัง  หัวใจคุ้มครองป้องกันสารพัด

เสริมด้วยนะปิดล้อม  มหาอุดและกำบังตา

         การวางยันต์ของท่านสวยงามมากและมีตำแหน่งที่ไม่ค่อยจะคงที่นัก คงจะเนื่องด้วยความสะดวกในการลงของท่านนั่นเอง เมื่อเกิดมหาสงครามโลกครั้งที่สอง เสื้อยันต์ของท่านก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ท่านได้ครอบให้ศิษย์ช่วยกันลงเพื่อความรวดเร็ว และได้เพิ่มยันต์เกราะแก้วว่า     พุทธัง เพชรคงคัง  อิมังพันธนังอธิษฐานมิ เข้าไปด้วย ท่านบอกว่าเพื่อกันระเบิด

         เมื่อท่านลงได้ครบสูตรสำเร็จแล้วจะทำพิธีสอดกระดุมด้วยการกลัดกระดุมจากเม็ดล่างไปหาเม็ดบนภาวนาไปทีละเม็ดๆจนถึงเม็ดบนสุดจึงจะว่า คาถามหากำบังแล้วกลัดกระดุมเข้าที่นำมาปลุกเสกรวมอีกทีหนึ่ง    เพื่อป้องกันการสับสนท่านได้ให้เจ้าของเสื้อใช้ดินสอดำเขียนชื่อของตนเอาไว้ด้วย  
                                          
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 11, 2013, 10:51:15 am โดย toi » บันทึกการเข้า
toi
Global Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 5117


« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2013, 10:23:48 am »

   

                                   วิธีการใช้

         เสื้อยันต์วิรุณจำบังนี้ ให้อาราธนาด้วยการตั้งนะโม 3 จบ แล้วระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ บิดามารดา ครูอุปัชฌาย์ จนถึงคุณพ่อวัดบางกระพ้อมเป็นที่ตั้งขอให้มาช่วยประสิทธิประสาทความเข้มขลังให้กับเสื้อยันต์ การกลัดกระดุมให้กลัดจากเม็ดล่างสุดขึ้นมา อย่ากลัดจากบนไปหาล่าง กลัดกระดุมเม็ดหนึ่งให้ว่าคาถาว่า นะโมพุทธายะ ครั้งหนึ่ง เมื่อจะไปไหนมาไหนให้ติดกระดุมเพียงสี่เม็ด เว้นเม็ดบนสุดเอาไว้  เมื่อจะเข้ารณรงค์สงครามก็ให้ระลึกถึงหลวงพ่อวัดบางกระพ้อมเป็นที่ตั้ง จึงตีฝ่าเข้าไป ปืนผาหน้าไม้ธนูหอกดาบแหลนหลาวเป็นห่าฝน ไม่ตกต้องตนแม้แต่น้อย แม้จะถูกก็คงกระพันชาตรี ตีไม่แตก ท่านว่าให้มั่นใจเท่านั้นเป็นพอ  หากว่าเหลือกำลังจะต่อสู้ต้องถอยหนี ตีจากก็ระลึกถึงหลวงพ่อวัดบางกระพ้อมเป็นที่ตั้ง กลืนลมหายใจแล้วกลัดกระดุมเม็ดบนสุดเข้าที่จรลีไปเถิดคนเป็นร้อยเป็นพันหามองเห็นไม่ จะเห็นก็ต่อเมื่อไปไกลแล้ว ถึงเห็นก็หุบปากสนิทเคลื่อนไหวทายทักมิได้ เป็นมหาจังงังไปทั้งสิ้นอย่าสงสัยเลยเคยผจญเคยพบเห็นมากับตัวเอง เสื้อยันต์วิรุณจำบังนี้แขวนไว้กับบ้านกลัดกระดุมทุกเม็ดเป็นยันต์กันอัคคีภัยได้ เมื่อจะนำทางคนให้พ้นจากอันตรายให้สวมเสื้อแล้วนำอยู่หัวแถวให้ผู้ที่ตามมาเกาะเอวติดกันเป็นพวงหรือเดินตามหลังเป็นแนวเดียว คุ้มได้ถึงเก้าคน

                                    ข้อห้าม

         ห้ามมิให้เอาไปใช้ปล้นสะดมหรือคิดการเป็นภัยต่อบ้านเมือง ไม่ให้เอาไปใช้ข่มเหงผู้อื่น หรือฉุดสตรีมาเพื่อทำอนาจาร ห้ามเป็นชู้ลูกเมียผู้อื่น ห้ามด่าแม่ กระดุมของเดิมจงหมั่นดูแลรักษาอย่าให้หายเพราะเป็นของสำคัญประจำคู่กับเสื้อยันต์

                                   ข้อควรสังเกต

         เสื้อด้านนอกส่วนใหญ่ที่พบยุคแรกจะเป็นสักหลาดเป็นส่วนใหญ่ และลงอักขระด้วยลายมือเรียบร้อย กระดุมเท่าที่พบ มีกระดุมที่ทำคือ กระดองเต่าทะเล และกระดุมที่ทำจากเขาควายหรืองาช้าง ส่วนยุคสงครามจะพบผ้าลินินชนิดหนาสีดำเข้ามาปะปน กระดุมเป็นกระดุมเขาสัตว์ขนาดค่อนข้างใหญ่ ไม่มีกระดุมแป๊บและพลาสติค และลายมือที่ลงจะหยาบไม่เรียบร้อย ความหม่นเก่าทั้งด้านในและด้านนอกมีให้เห็น ของเทียมเท่าที่เห็นสักหลาดจะใหม่และมีสีอื่นนอกจากสีดำด้วย ขอให้จำให้แม่นๆว่าเสื้อยันต์วิรุณจำบังมีเพียงสีดำ ด้านในขาวเท่านั้น
         ตามไปดูละเอียดๆได้ที่ลิ้งนี้ครับ
                                   http://www.pralanna.com/boardpage.php?topicid=25905
                                        
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 11, 2013, 10:48:45 am โดย toi » บันทึกการเข้า
Beta_boMbaY
Newbie
*
กระทู้: 5


บอมเบย์ ลำปางครับผม~


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2013, 04:55:27 pm »

ขอบคุณมากครับพี่ต้อย สำหรับความรู้ครับผม หนึ่งในที่สุดของเกจิอาจารย์ยุคสงครามอินโดจีน   
บันทึกการเข้า

_____นะสิวัง พรหมา มะอะอุ_____
toi
Global Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 5117


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2013, 01:10:39 pm »

ขอบคุณมากครับพี่ต้อย สำหรับความรู้ครับผม หนึ่งในที่สุดของเกจิอาจารย์ยุคสงครามอินโดจีน   
          รู้ใว้ได้เปรียบครับ เผื่อไปเจอที่ไหนจะได้ไม่เสียโอกาสได้ของดีดีไปครับ ขอบคุณมากครับ
                                   
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

 
  Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF |