ขอบคุณทุกท่านมากครับ
ลองดูมุมของเศรษศาสตร์บ้างนะครับ
เป็นธรรมดาตามหลักเศรษฐศาสตร์ คือ สิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตามเมื่อมี "อุปสงค์" (ความต้องการสินค้าของผู้บริโภค ) ก็ย่อมต้องมี "อุปทาน" (ปริมาณสินค้าที่ผู้ผลิตเสนอขาย) ยิ่งสิ่งนั้นมีจำนวนจำกัด และไม่สามารถเพิ่มปริมาณได้ สิ่งที่ตามมา คือ ราคา ที่เพิ่มสูงขึ้น พระเครื่อง มีการสร้างที่กำหนดจำนวนไว้แล้ว เมื่อระยะเวลาผ่านไป พระเครื่องมีจำนวนเท่าเดิม แต่อุปสงค์ของพระเครื่องเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนของประชากรที่เพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมา จะมี 2 อย่าง คือ
1. ระดับราคาที่เพิ่มสูงขึ้น
2. สิ่งทดแทนที่จะเพิ่มมากขึ้น
อย่างที่ 1. นั้นไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เพราะเป็นไปตามความต้องการที่สูงขึ้น แต่ก็ควรอยู่ในระดับที่ไม่ผิดปกติเกินไป อันเป็นไปตามกลไกของตลาด ซึ่ง ผู้บริโภคก็จะได้สิ่งของตามต้องการ
อย่างที่ 2. นี่น่ากลัว และไม่สนับสนุนแน่ ๆ เพราะสิ่งที่จะมาทดแทนนั้น จะไม่ใช่สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ นั่นก็คือ ของปลอม แต่เหตุผลที่ของปลอมสามารถเข้ามาแทรกอยู่ร่วมกับของแท้ได้ มีสิ่งเดียว คือ "ความไม่รู้" ของผู้บริโภคนั่นเอง จึงเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ ของปลอมสามารถขายหรือจำหน่ายแทน ของแท้ได้ แต่ในระดับราคาที่ถูกกว่า ซึ่ง ผมขอเรียกผู้บริโภค ที่ซื้อของปลอมว่า "เหยื่อ" นั่นเอง
ที่เอามาเตือนมาบอกกันเพราะไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อของคนพวกนี้ครับ อย่างน้อยคนที่ได้อ่าน ได้ดู ก็ยังมีโอกาสดีกว่าคนที่ไม่สามารถเข้ามาดูได้ พวกเขาเหล่านั้นจะต้องถูกหลอก ถูกโกงไปอีกนาน สังเกตุได้จากธุรกิจการทำพระปลอมที่มีแทรกอยู่ในหลาย ๆ ที่ครับ
และคนพวกนี้จะถูกเบียดออกไปจากสังคมตลอดเวลาที่ความจริงเริ่มเปิดเผย ต้องช่วยกันครับ
