ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
  
    หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก   
 
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รูปอัดกระจกหลวงพ่อหร่ำ สุพรรณบุรี  (อ่าน 3266 ครั้ง)
ขุนทัพ
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 3559



« เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2009, 06:00:40 pm »

 Grin Grin Grin Grin Grin Grin Grin Grin Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
Big
Newbie
*
กระทู้: 25


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2009, 06:41:05 pm »

รุ่นแรกสวยจัง
บันทึกการเข้า
toi
Global Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 5117


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 07:26:30 pm »

องค์นี้ชอบมากๆครับ  Cheesy
บันทึกการเข้า
ขุนทัพ
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 3559



« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 09:47:56 pm »

ขอบคุณ คุณใหญ่ พี่ต้อยมากครับ ที่มาเยี่ยม และทักทายครับ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
admin
Administrator
Full Member
*****
กระทู้: 123


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2009, 04:15:00 pm »

เขาแยกยังไงครับกับรุ่นเสริมของ อ.ทองหยด
บันทึกการเข้า

ชีวิตนี้ได้ดีเพราะหลวงพ่อ
ขุนทัพ
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 3559



« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2009, 12:22:44 pm »

เขาแยกยังไงครับกับรุ่นเสริมของ อ.ทองหยด
ดูที่ความคมชัดของภาพ ตัวหนังสือ สีของภาพ ความเก่าอายุของภาพ และโดยเฉพาะกระจกที่อัดติดรูป จะดูใสๆและใหม่กว่ากันมากครับ  Grin Grin Grin



       ดูภาพเปรียบเทียบ
    ต้องขอโทษและขออนุญาติท่านเจ้าของภาพด้วยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 13, 2009, 02:55:26 pm โดย ขุนทัพ » บันทึกการเข้า
ขุนทัพ
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 3559



« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 02:59:24 pm »

ช่วงนี้ระวัง...ทราบว่ามีรูปรุ่นนี้ทะลักเข้ามาในสนามมากผิดปรกติ แต่กระจกยังแลดูใหม่อยู่ Shocked Shocked Shocked
บันทึกการเข้า
โยธิน
Sr. Member
****
กระทู้: 346



« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2009, 11:39:56 am »

ขอบคุณพี่ขุนทัพมากครับ
บันทึกการเข้า
ขุนทัพ
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 3559



« ตอบ #8 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2009, 10:20:25 pm »

ขอบคุณพี่ขุนทัพมากครับ
...ครับ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
ขุนทัพ
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 3559



« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 11, 2010, 12:04:42 am »

ประวัติหลวงพ่อหร่ำ วัดวังจิก สุพรรณบุรี

สถานะเดิม    ชื่อ หร่ำ นามสกุล เครือแก้ว
 เกิด ปีระกา พ.ศ. 2427 ที่บ้าน บางคาง ต. วังลึก อ. สามชุก จ. สุพรรณบุรี
เป็นบุตรของ นายรอด นางชัง เครือแก้ว มีพี่น้องร่วมบิดา 3 คน ดังนี้
     1) นางฉัตร เครือแก้ว
     2) นายหริ่ม เครือแก้ว
     3) นายหร่ำ เครือแก้ว ( พระอธิการหร่ำ กิตฺติสาโร ) คู่แฝด

บรรพชาอุปสมบท

ณ พัทธสีมาวัดกระเสียว อ. สามชุก จ. สุพรรณบุรี โดยมี .... พระครูวิริยสุนทร ( หลวงพ่อเล็ก ) วัดวังหิน เป็นอุปัชฌาย์

“พระผู้มีวาจาสิทธิ์”
หลวงพ่อหร่ำ กิตฺติสาโร เป็นที่เคารพศรัทธาและรักใคร่ของญาติโยมเพราะ หลวงพ่อท่านเป็นพระสุปฎิปันโน พระผู้ปฎิบัติชอบอยู่ในสีลาจารวัตร จนชาวบ้านหรือบุคลทั่วไป ได้ขนานนามว่า “พระผู้มีวาจาสิทธิ์” มีวิทยาคมทางเมตตามหานิยมและทางน้ำมนต์ต่างๆ จึงมีพุทธศาสนิกชนทั่วไป ต่างหลั่งไหลมานมัสการท่านโดยมิได้ขาดสายทุกวัน วันๆหลวงพ่อต้องมานั่งต้อนรับแขกวันละหลายชั่วโมง และมีเรื่องมากมายที่เป็นไปตามวาจาสิทธิ์ที่ท่านได้พูดต่อญาติโยม โดยเฉพาะคนที่ประพฤติผิดศีลธรรม ถ้าท่านทักใครคนนั้นต้องมีอันเป็นไป ตามวาจาที่ท่านพูด
            วันๆ หนึ่งจะมีญาติโยมมาพูดคุยมาขอรดน้ำมนต์กับท่านทั้งวันมิได้ขาด ทำให้หลวงพ่อท่านมีเวลาพักผ่อนน้อย ปกติหลวงพ่อท่านชอบฉันหมากเป็นประจำและชานหมากของหลวงพ่อน้อยคนนักที่จะได้ และคนที่ได้ชานหมากไปแล้วก็ถือว่าได้วัตถุมงคลชั้นดีของหลวงพ่อไปบูชา และเมื่อได้มาพกติดตัวแล้วมักจะโชคดีและแคล้วคลาดจากอันตรายเสมอ ครั้งนั้นหลวงพ่อท่านได้สร้างเหรียญรูปของท่านเป็นครั้งแรกเป็นเหรียญรูปดอก จิกครึ่งตัว ด้านหลังเป็นยันต์ของหลวงพ่อและได้นำมาจ่ายให้กับทุกคนที่มากราบไหว้ท่าน และอำนาจบารมีอันศักดิ์สิทธิ์เหรียญของหลวงพ่อนั่นใครได้ไปแล้วมักแคล้วคลาด จากอันตรายเสมอ และได้สอบถามผู้ที่เคยมีเหรียญพกมาแล้วต่างก็พูดกันว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก แม้แต่รูปถ่ายของหลวงพ่อที่มีกาน้ำ 3 ใบนั้นศักดิ์สิทธิ์มาก มีครั้งหนึ่งชาวบ้านวังลึกคนหนึ่งมีรูปถ่ายของหลวงพ่อไว้บูชากับบ้าน วันหนึ่งมีลมพายุพัดในฤดูร้อนพัดมาอย่างรุนแรงมาทั้งลมมาทั้งฝน บ้านบางหลังได้รับความเสียหาย ชาวบ้านคนที่เกรงว่าพายุจะพัดบ้านตนเองจึงหยิบรูปถ่ายของหลวงพ่อมาอาราธนาขอ บารมีหลวงพ่อหร่ำ เป็นที่พึ่งขอให้ปัดเป่าลมพายุให้หายด้วย เป็นที่อัศจรรย์ลมพายุหายไปในชั่วอึดใจ
            มีอยู่ครั้งหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2491 ในปีนั้นทางวัดวังจิกมีงานประจำปี และในขณะนั้นจะเป็นยุคโจรผู้ร้ายชุกชุม เสือร้ายในยุคนั้นคือ เสือดำ เสือฝ้าย เสือใบ เสือชม ออกปล้นชาวบ้านอยู่เสมอจนชาวบ้านขยาดกลัว และเรียกว่า “ชุมเสือ” ในชุมเสือฝ้าย และเรียกสั้นๆว่า พวกเสือ งานวัดปีนี้ก็มีพวกเสือต่างๆมาคุมงานแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนตำรวจไม่กล้ามาเพราะอิทธิพลเสือร้ายมีมาก เสือร้ายพวกนี้ไม่กลัวบารมีหลวงพ่อหร่ำ ได้พาพวกมาปล้นวัดวังจิก เพราะได้ทราบข่าวว่า นายย้อย เศรษฐีมีเงินแห่งบ้านวังลึกได้นำทรัพย์สินไปมาฝากกับหลวงพ่อ เพราะเก็บเอาไว้เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย พวกเสือชุมหนึ่งจึงพาพวกมาปล้นวัดหลวงพ่อหร่ำได้ทรัพย์สินไปมาก และเป็นช่วงที่พระในวัดได้ฝากเสื้อผ้าข้าวของที่จะลาสิกขาในวันสองวันจึงถูก เสือปล้น ขนใส่กระทะใบบัวขนาดใหญ่ที่ทางวัดมีไว้เพื่อหุงข้าวในงานวัดขนไปหมดและ ประกาศห้ามมิให้ชาวบ้านมองดู ถ้าใครมองดูจะยิงให้ตาย หลวงพ่อมิได้ทำอะไรปล่อยให้พวกเสือขนของไปหมดจนพระในวัดรูปหนึ่งได้พูดกับ หลวงพ่อว่า หลวงพ่อมันเอาไปหมดเลย หลวงพ่อตอบว่า ช่างมันเอาไปไม่ได้ใช้ไม่ได้หรอก เป็นจริงดังคำที่หลวงพ่อพูด เสือที่ปล้นของไปนั้น ยังไม่พ้นเขตบ้านวังจิก ก็ถูกเสืออีกชุมหนึ่งซุ่มยิงจนตายหมดทั้งสองฝ่าย
            

สาเหตุมรณภาพ
เมื่อครั้นอายุหลวงพ่ออย่างเข้าสู่วัยชราภาพ คือเป็นไปตามอายุสังขารของมนุษย์ต้องมีโรคภัยมาเบียดเบียน หลวงพ่อได้ประสบกับโรคต่อมลูกหมากอักเสบขึ้น เมื่อคืนวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2510 เวลาประมาน 20.30 น. ท่านเกิดอาพาธหนักกะทันหัน ท่านพระครูทองหยด ปวโร พร้อมด้วยญาติโยมได้นำท่านส่งโรงพยาบาลสุพรรณบุรี สารครินทร์ เพื่อทำการรักษาแพทย์จึงได้ทำการผ่าตัดรักษาโรคที่หลวงพ่อประสบอยู่ และรักษาตัวอยู่ที่โรงบาล ถึง 15 วัน ท่านจึงมรณภาพ เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510 เวลา 09.30 น. ด้วยอาการสงบ รวมอายุได้ 83 ปี 46 พรรษา

หลวงพ่อหร่ำกับวัดเขาดิน
            หลวงพ่อหร่ำ กิตฺติสาโร นอกจากเป็นพระปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ เป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสของบรรดาศิษยานุศิษย์แล้ว  ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาที่ทำคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาได้สร้างวัดวาอาราม ให้เป็นที่พักสงฆ์นอกจากวัดที่ท่านอยู่แล้ว ท่านยังมาริเริ่มสร้างวัดอีก 2 แห่ง คือวัดลำพระยา และวัดเขาดิน ท่านเป็นผู้ที่ทำงานเห็นคุณประโยชน์ของส่วนรวมมาโดยตลอด สร้างสาธารณูปการมากมาย แม้กระทั่งวัดเขาดินก็ยังได้รับความเมตตาอนุเคราะห์จากท่าน จึงได้มีวัดเขาดินทุกวันนี้
            ตามประวัติที่ท่านผู้เม่าผู้แก่ได้เล่นให้ฟังว่า ในสมัยนั้น บ้านเขาดินก็เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเดิมบางนางบวช ลักษณะของหมู่บ้านที่ภูเขาดินและรกเป็นป่าธรรมชาติเขาและวัดสำนักสงฆ์ใน บริเวณหมู่บ้านก็ไม่มี ทางชาวบ้านเขาดิน ในสมัยนั้นก็มีคณะกรรมการ คือ ผู้ใหญ่เทียบ เหมือนแก้ว นายโปร่ง สุดสงวน นายยวน โสขุมา นายน้อม รอดไผ่ ครูชื่น น้ำดอกไม้ นายไล้ นายหล่อ เหมือนแก้ว นายทวี เหมือนแก้ว นายสนิท เทียนเบ็ญจะ นายสิริ ทองเครือ นายจุน สว่างศรี  ทั้งหมดนี้เป็นคระกรรมการที่ริเริ่มจะสร้างวัดเขาดิน
            เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2508 คณะกรรมการเหล่านี้ได้เดินทางกันไปทางเรือ เพราะสมัยนั้นหนทางยังไม่มีต้องใช้เส้นทางเรือ คณะกรรมการเหล่านั้นได้แจวเรือ ซึ่งมีนายบุญธรรม แจวท้ายเรือ และมีนายพะยอม มะรุมเมือง เป็นผู้แจวหัวเรือ แล้วคณะกรรมการได้ขึ้นไปกราบนมัสการหลวงพ่อหร่ำที่กุฎิ เพื่อให้หลวงพ่อได้มาช่วยนำศรัทธาของญาติโยมมาสร้างเสนาสนะ เพื่อใช้เป็นที่พำนักสงฆ์
            หลวงพ่อหร่ำ กิตฺติสาโร ได้มาทำการสร้างพระประธานบนยอดเขา เมื่อปี พ.ศ. 2509 จนเสร็จตอนนั้นการก่อสร้างมีความยากลำบากมาก เพราะไม่มีเครื่องมือทันสมัยเหมือนอย่างปัจจุบัน
            หลังจากนั้นปี พ.ศ. 2510 หลวงพ่อ ก็ถึงแก่กรรมมรณภาพ ถือว่าหลวงพ่อได้สร้างหัวใจสำคัญของวัดเขาดิน นั้นคือ”พุทธปฎิมา” อันศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน หลวงพ่อได้มองการไกลของการก่อสร้างพระประธานไว้บนยอดเขา การสร้างอะไรไว้ที่สูงเสี่ยงต่อการโดนฟ้าผ่า หลวงพ่อได้สลักคาถาไว้เพื่อป้องกันฟ้าผ่าที่หลังพระประธาน นั้นคือ
พุทโธ กัญจะ กัญจะ พุทโธ อากาเส ธีปัง กะโรมิ
            คาถาบทนี้ ถือว่าเป็นคาถาที่บรรดาลูกศิษย์ใช้ป้องกันอันตรายต่างๆ


วัตถุมงคลหลวงพ่อหร่ำ

 หลวงพ่อหร่ำท่านนอกจากสร้างเหรียญรุ่นแรก เหรียญพระปัจเจกพระพุทธเจ้าแล้วท่านยังสร้างพระแก้บนฐานอุดด้วยเทียนชัย
หลวงพ่อหร่ำเป็นศิษย์สายหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ รุ่นพี่หลวงพ่อกวย พระเกจิที่มีอาคมขลัง วาจาสิทธิ์ยิ่งนัก ลำพังเหรียญรุ่นเเรกก็หาชมยากมาก โดยเฉพาะเหรียญบล็อกประจวบ ซึ่งเอาบล็อกเหรียญหลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลักมาทำ จึงปรากฎรอยตามเหรียญ
พระผงนั้น พระผงหลวงพ่อหร่ำ วัดวังจิก สุพรรณบุรี หลวงพ่อไม่ได้สร้างเอง เเต่พระในวัดช่วยกันทำ ผสมมวลสารต่างๆ เเล้วนำไปถวายหลวงพ่อ ท่านก็ปลุกเสก พระองค์นี้เป็นชุดที่พระในวัดที่หลวงตาพัวสร้างถวาย เอกลักษณ์คือ ด้านหลังจะมียันต์เเละบอกชื่อวัด ว.วังจิก พระลักษณะเดียวกันนี้ หลังหลวงพ่อมรณภาพก็มีทำมาอีก เเต่มีการบอกพ.ศ.ไว้ด้วย พระเนื้อผงของหลวงพ่อหร่ำ จัดว่าเป็นของดี ที่หาชมได้ยากมากๆ

หลวงพ่อหร่ำศิษย์หลวงพ่อศรี
  หลวงพ่อบวชตั้งแตพรรษาแรก อายุท่าน ๒๐ ปี พอพรรษาต่อ ๆ มาท่านก็เรียนเทศน์มหาชาติและเรียนนักธรรม จนกระทั่งพรรษา ๘ หรือ อายุท่านได้ ๒๘ ปี ท่านจึงเรียนวิปัสสนากรรมฐาน กับ
หลวงพ่อศรี วิริยะโสภิต หรือหลวงพ่อสี อดีตเจ้าอาวาสวัดพระปรางค์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี หลวงพ่อได้มาเรียน วิปัสสนา จะเรียนอยู่กี่พรรษาไม่แน่ชัด แต่มีหลักฐานแน่ชัดคือปีแรกที่เรียนวิปัสสนา แสดงว่าหลวงพ่อได้เรียนวิปัสสนาและอาคมเพียงปีเดียวก็สำเร็จ นอกจากนั้นหลวงพ่อศรียังมีศิษย์ที่เป็นพระมีวิชาดีหลาย องค์ เช่น หลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์, หลวงพ่อหร่ำ วัดวังจิก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อเฟื่อง วัดแหลมคาง, หลวงพ่อ ฟัง วัดสะเดา สิงห์บุรี, พระครูพิมพ์ วัดสนามชัย อ.สรรคบุรี, หลวงพ่อบัว วัดแสวงหา อ่างทอง, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์ จ.สิงห์บุรี ฯ หลวงพ่อศรีนี้ ปัจจุบันเหรียญของท่านรุ่นแรกและรุ่นเดียวของท่านมีราคาแพงมาก แพงอันดับ ๑ ของจังหวัดสิงห์บุรี เมื่อท่านมรณภาพ ได้ทำฌาปนกิจ ปรากฏว่ามีดาวขึ้นในเวลากลางวัน แม้รูปหล่อท่านกับสถูปที่เก็บอัฐิของท่านปัจจุบันก็ศักดิ์สิทธิ์มาก

 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2011, 01:51:14 am โดย ขุนทัพ » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

 
  Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF |